A REVIEW OF 50 ปี อาเซียน

A Review Of 50 ปี อาเซียน

A Review Of 50 ปี อาเซียน

Blog Article

'เอกนัฏ' มอบนโยบายเข้มบังคับใช้กฎหมาย คุมสินค้าต่างชาติไม่ได้มาตรฐานทะลักไทย

สงครามอิรัก-เคอร์ดิสถานครั้งที่สอง

 เวียดนาม ฮานอย ประธานาธิบดี เหงียน มิญ เจี๊ยต เชิญสหรัฐและรัสเซียเข้าร่วมการประชุม

สปป.ลาว ประเทศหน้าด่านของอาเซียน ภายใต้เงาโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”

การจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนา

ผ่านแผนการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือ การเข้าถึงสินค้าและนำเข้าบริการที่ถูกลงและหลากหลายมากขึ้น

อาเซียนปรับตัวเพื่อให้ได้ประโยชน์จากกระบวนการโลกาภิวัฒน์ไม่น้อย ยอมรับประเทศที่เคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตอย่างเวียดนาม ลาว และประเทศที่มีปัญหาในประเทศมากมาย เช่น พม่าและกัมพูชาเข้ามาเป็นสมาชิก ละทิ้งความขัดแย้งและแตกต่างทางอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง เปิดเสรีทางเศรษฐกิจเข้าหากันมากขึ้น แม้นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งไม่ยอมรับว่านั่นเป็นการผนึกประสานในความหมายที่แท้จริงก็ตาม แต่ก็ปรากฎว่ากลุ่มอาเซียนเชื่อมโยงกันมากขึ้น ทั้งในทางเศรษฐกิจและกายภาพ

..ความมั่นคง สังคมและวัฒนธรรม แต่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่เชื่อมโยงกัน...แต่ไม่ชัดเจนเท่าเรื่องเสาเศรษฐกิจ “การค้าชายแดนไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจากเออีซี แต่เกิดขึ้นระหว่างทวิภาคีมากกว่า แล้วก็เป็นนโยบายประเทศที่มุ่งไปให้สิทธิพิเศษตรงชายแดนระหว่างประเทศนั้นๆ”

กล่าวได้คือ ในระหว่างที่มีการรวมตัวกันแก้ปัญหา และแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันนั้น ตลอดระยะเวลาก็จะมีการพบปะหารือกันเสมอ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งในระหว่างหารือก็จะต้องมีการตัดสินใจ โดยในขณะนั้น ได้มีการคิดหาวิธีการที่ดีที่สุด ซึ่งหากใช้เสียงข้างมากในการตัดสินใจก็จะเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจได้ จนกลายเป็นที่มาของคำว่า 50 ปี อาเซียน "ฉันทามติ" ที่อาเซียนถือเป็นแนวทางปฏิบัติมาตลอดนั่นเอง

ไปพร้อม ๆ กับความพยายามที่จะรักษาเก้าอี้ในอาเซียนเอาไว้ โดยในระหว่างการเตรียมตัวเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนนั้น กัมพูชาจะต้องเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้นหลายประการ เช่น การขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์และเงินทุน กรอบการใช้กฎหมายที่ยังไม่ชัดเจน และองค์กรที่อ่อนแอ ส่วนในระยะปานกลาง

วาติคิโอติสเห็นว่า อาเซียนแสดงความเป็นฝักเป็นใฝ่ออกมาโดยชัดแจ้ง ระหว่างฝ่ายที่โน้มเอียงไปหาสหรัฐฯ กับฝ่ายที่โน้มเอียงไปหาจีน จารีตเรื่องฉันทามติถูกละเมิดและท้าทายครั้งแล้วครั้งเล่า

เพราะนโยบายของพวกเราชาว “ไทยรัฐทีวี” ภายใต้การบริหารของ “จูเนียร์” วัชร วัชรพล บิ๊กบอสใหญ่ผู้มีหัวใจรักกีฬาแบบเกินร้อย

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาเซียนและสหภาพยุโรป

ในส่วนของฟิลิปปินส์นั้น เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเป็นประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ก็เปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ เก็บคำพิพากษาศาลประจำอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในเรื่องทะเลจีนใต้ใส่ลิ้นชัก แสดงท่าทีไม่แยแสสหรัฐฯ และหันไปร่วมมือกับจีนในการแสวงหาผลประโยชน์ทางทะเลร่วมกันมากขึ้น

Report this page